“สวนสวยๆ จัดอย่างไร ให้ฮวงจุ้ยบ้านดูดี”
“สวนสวยๆ จัดอย่างไร ให้ฮวงจุ้ยบ้านดูดี”
สวนเป็นจุดเด่นเป็นหน้าเป็นตาของบ้าน แถมยังเป็นการเสริมฮวงจุ้ยบ้านให้ดีอีกด้วย
ขนาดของพื้นที่ในการจัดสวน
จะต้องดูว่ามีพื้นที่เหลือให้จัดสวนเท่าไหร่ อยู่ด้านใดของบ้าน และเป็นทิศอะไร รวมไปถึงรูปทรงของที่ดินเพื่อจะได้กำหนดสไตล์ของสวน พื้นที่ใหญ่อาจจัดสวนที่มีทั้งต้นไม้ใหญ่ สระน้ำใหญ่ หรือสนามที่กว้าง แต่บ้านที่มีพื้นที่น้อยอาจทําได้แค่จัดสวนหินเล็กๆ จัดวางน้ำตกจำลอง หรือว่าแค่กระถางต้นไม้หรืออ่างบัว
สำหรับบ้านที่มีรูปทรงที่ดินแบบสี่เหลี่ยมคางหมู จะทำให้บ้านเกิดมุมเหลี่ยมเฉียงขึ้น การจัดสวนสามารถช่วยกลบเกลื่อนแนวเฉียงของบ้านให้หมดไปได้ ทำให้บ้านดูเป็นสี่เหลี่ยมเต็มรูป
“สวนที่ดีต้องครบองค์ประกอบ 5 ธาตุ”
การผสมกลมกลืนกันอย่างลงตัวของธาตุทั้ง 5 คือ ธาตุน้ำ ธาตุไม้ ธาตุไฟ ธาตุดิน และธาตุทอง จะทำให้สถานที่นั้นๆเจริญรุ่งเรือง การจัดสวนก็เช่นเดียวกัน จะต้องอาศัยหลักของเบญจธาตุเพื่อปรับสมดุลให้กับสวน ไม่หนักไปที่ธาตุใดธาตุหนึ่ง สวนที่ดีต้องประกอบไปด้วยต้นไม้ (ธาตุไม้) น้ำตก น้ำพุ อ่างบัว บ่อปลา (ธาตุน้ำ) แสงแดดส่องถึง (ธาตุไฟ) มีดินที่สมบูรณ์ (ธาตุดิน) และที่สำคัญจะต้องมีการตกแต่งอย่างสวยงาม (ธาตุทอง) ไม่ใช่ปล่อยให้รกรุงรังกลายเป็นป่าช้ามากกว่าที่จะเป็นสวน
สวนที่ขาดความสมดุลจะไม่ส่งเสริมฮวงจุ้ยที่ดีของบ้าน เช่น จัดสวนให้มีต้นไม้อย่างเดียว มีต้นไม้ใหญ่มากเกินไป จะทำให้บ้านมืดและมีความชื้นมากเพราะแสงแดดส่องลงมาไม่ถึง ข้อเสียคือทำให้บ้านนิ่ง ไม่มีชีวิต หรือบางบ้านที่ไม่มีพื้นดินเลยเพราะเทปูนจนหมด แล้วเอาอ่างบัวหรือกระถางต้นไม้มาวางก็ไม่สามารถเป็นส่วนที่สมบูรณ์ได้
“ทิศกับการจัดสวน”
การจะให้ฮวงจุ้ยบ้านดีนั้นการจัดสวนเป็นส่วนหนึ่งที่จำเป็นต้องดูทิศและเป็นปัจจัยหนึ่งในการกำหนดรูปแบบของสวน เช่น ทิศตะวันตกซึ่งแดดจะร้อนจัดในช่วงบ่ายถึงเย็น อาจจัดสวนให้มีต้นไม้ใหญ่ทางทิศนี้เพื่อบังแสงแดด หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งเป็นทิศที่ลมแรงที่สุดโดยเฉพาะในฤดูฝน (ลมมรสุม) อาจเลี่ยงการปลูกต้นไม้ใหญ่ที่ค่อนข้างเกราะอย่างพญาสัตบรรณ ทิศตะวันออกกับทิศเหนืออาจจะเป็นจุดที่เหมาะกับการวางน้ำทำบ่อปลา เพราะแสงแดดไม่แรงจนเกินไป ส่วนทิศใต้เป็นทางลมในหน้าร้อน อาจทำเป็นสนามหญ้าหรือที่โล่งของสวนเพื่อเปิดทางลมเข้าบ้าน
“การวางน้ำในสวน”
ถ้าต้องการให้น้ำเป็นจุดเด่นของสวนจะต้องกำหนดจุดวางน้ำเสียก่อน ถ้าเอาหลักของฮวงจุ้ยบ้านมาพิจารณาก็จะต้องเอาทิศเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ถ้าทำเป็นน้ำขนาดใหญ่อย่างสระว่ายน้ำ บ่อน้ำขนาดใหญ่ จะห้ามสร้างทางทิศตะวันตก ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพราะน้ำจะมีผลกับแสงแดดในตอนบ่าย แสงแดดจะสะท้อนน้ำเข้าตัวบ้านได้ ถ้าเป็นสระว่ายน้ำตอนบ่ายก็ไม่สามารถเล่นน้ำได้
จุดวางน้ำใหญ่จึงต้องเลือกทางทิศเหนือหรือทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะเหมาะสมที่สุด เพราะเป็นจุดที่รับแสงแดดน้อยที่สุด นอกจากการดูทิศทางแล้วขนาดของน้ำจะต้องเหมาะสมกับขนาดของพื้นที่ด้วย ถ้าต้องการทำสระน้ำใหญ่ พื้นที่ดินจะต้องใหญ่ตามไปด้วย
การทำสระน้ำอยู่ใกล้ตัวบ้านจะทำให้บ้านเย็น นอกจากนี้น้ำยังมีสภาพที่เคลื่อนไหวเวลาโดนลมพัด หรือทำน้ำพุไว้กลางสระก็ยิ่งเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับคนในบ้านได้มากกว่าสนามนิ่งๆ ช่วยให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายและความสดใสมีชีวิตชีวาอีกด้วย
บ้านที่มีพื้นที่ไม่มากพอจะทำสระน้ำใหญ่ๆ อาจทำเป็นบ่อน้ำหรือสระน้ำขนาดเล็กได้ เช่น บ่อน้ำพุ ไหน้ำล้น เพราะให้ความรู้สึกที่ดีทั้งชื่อและภาพที่มองเห็นน้ำที่มีการเคลื่อนไหวให้ความรู้สึกที่ดีกว่าน้ำที่นิ่งอย่างอ่างบัว หรือสระน้ำที่น้ำไม่เคลื่อนไหว
สำหรับตำแหน่งการวางน้ำนั้นไม่กำหนดข้อห้ามเอาไว้ สามารถทำได้ทั้งหน้าบ้าน ข้างบ้าน หรือหลังบ้าน ยกเว้นจะเป็นน้ำตามธรรมชาติ เช่น แม่น้ำ ลำคลอง บึงน้ำใหญ่ ที่หลักฮวงจุ้ยของบ้านห้ามวางไว้หลังบ้าน เพราะน้ำจะเซาะดินหรือตลิ่งที่เป็นดินพังทำให้บ้านเสียหายได้
เคล็ดลับในการวางน้ำในสวนคือ จะต้องอยู่ในจุดที่คนในบ้านมองเห็น เช่น หน้าบ้าน ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น โต๊ะอาหาร เพราะถ้าวางน้ำแล้วไม่เห็นก็ไม่สามารถเกิดประโยชน์ใดๆ
ส่วนการขุดบ่อน้ำหรือสระน้ำในสวนจะต้องระวังเรื่องของรูปทรงของสระน้ำ ไม่ควรใช้รูปทรงที่ทำร้ายคนในบ้าน เช่น รูปทรงที่เป็นเหลี่ยม รูปทรงขนมเปียกปูน สามเหลี่ยม ควรใช้รูปทรงโค้งมนหรือวงกลมจะถือว่าดีที่สุด
การวางน้ำรับประตูทางเข้าบ้านเป็นการกระตุ้นโชคลาภให้ไหลเข้าบ้าน สร้างความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า กระตุ้นให้คนออกไปหาเงินได้มากขึ้น
การติดไฟสนาม
บ้านที่มีพื้นที่เหลือมากๆ สนามจะโล่ง เวลากลางคืนจะทำให้สภาพบริเวณนั้นนิ่งและมืดเกินไป ทำให้บ้านขาดความสมดุลเพราะมีส่วนที่นิ่งมากกว่าการเคลื่อนไหว สามารถปรับแก้ไขได้โดยการติดไฟบริเวณสนามที่นิ่ง แสงสว่างจะเพิ่มความเป็นอย่างให้กับสถานที่ ซึ่งจะช่วยให้ฮวงจุ้ยของบ้านดีขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น